เสียงดังไม่ใช่แค่รำคาญ แต่อาจทำลายสมองได้จริง
เสียงรบกวนที่เกินระดับปลอดภัย = ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม
หลายคนอาจเคยรู้สึกรำคาญเมื่ออยู่ในที่เสียงดัง เช่น งานก่อสร้าง ผับ คอนเสิร์ต หรือแม้แต่หูฟังที่เปิดเสียงสุด แต่น้อยคนที่จะรู้ว่า "เสียง" เหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อระบบประสาทและสมองของเราได้โดยตรง และในระยะยาวอาจก่อให้เกิดผลเสียทั้งด้านสุขภาพจิตและร่างกาย
เสียงดังเกินเท่าไหร่ ถึงเป็นอันตราย?
ค่าระดับเสียงที่ปลอดภัยไม่ควรเกิน 85 เดซิเบล (dB)
- เสียงพูดคุยปกติ: ประมาณ 60 dB
- การจราจรหนาแน่น: 85–90 dB
- คอนเสิร์ต/ผับ/ผับบาร์: 100–120 dB
- หูฟังระดับสูงสุด: 100–110 dB
การสัมผัสเสียงที่ดังเกิน 85 dB อย่างต่อเนื่อง (เช่น มากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน) จะเริ่มส่งผลเสียต่อระบบประสาท และถ้าเสียงเกิน 120 dB อาจทำให้เกิดความเสียหายกับโครงสร้างในหูทันที
เสียงดังส่งผลต่อสมองอย่างไร?
ไม่ใช่แค่ทำให้หูพัง แต่ทำให้สมอง “เครียด” และ “เสื่อม” ได้
- ส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมน – ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนความเครียด เช่น คอร์ติซอล (cortisol) ซึ่งมีผลต่อสมองโดยตรง
- รบกวนการนอนหลับ – ส่งผลต่อความจำ การเรียนรู้ และการซ่อมแซมสมอง
- ลดประสิทธิภาพของสมองในระยะยาว – เสียงรบกวนทำให้สมองต้องทำงานหนักขึ้น แม้เราจะไม่ได้รู้สึกก็ตาม
- เสี่ยงสมาธิสั้นในเด็ก และภาวะหลงลืมในผู้ใหญ่ – โดยเฉพาะในสิ่งแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนตลอดเวลา
เสียงดังเกี่ยวอะไรกับโรคทางสมอง?
งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่า “เสียงรบกวนเรื้อรัง” เพิ่มความเสี่ยงของ:
- โรคอัลไซเมอร์
- ภาวะสมองเสื่อม
- โรควิตกกังวล และซึมเศร้า
โดยเฉพาะในกลุ่มที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ หรืออยู่ใกล้แหล่งก่อสร้าง เสียงรถ เสียงเครื่องยนต์ตลอดเวลา

จะรู้ได้ยังไงว่าเราเริ่มได้รับผลกระทบ?
สังเกตสัญญาณเหล่านี้
- หงุดหงิดง่ายเมื่อได้ยินเสียงดัง
- นอนไม่หลับหรือหลับ ๆ ตื่น ๆ
- ปวดหัวบ่อย เหนื่อยล้าแม้จะพักผ่อน
- รู้สึกเบลอ คิดอะไรช้าลง มีปัญหาด้านความจำ
วิธีป้องกันสมองจากเสียงดัง
- ใช้ที่อุดหูในที่ที่เสียงดัง เช่น งานก่อสร้าง คอนเสิร์ต
- หลีกเลี่ยงการใช้หูฟังเสียงดังนานเกิน 1 ชั่วโมง/ครั้ง
- จัดบ้านให้เป็นพื้นที่เงียบ เช่น ใช้ผ้าม่านหนา ติดฉนวนกันเสียง
- ฝึกผ่อนคลายสมอง เช่น ฟังเสียงธรรมชาติ นั่งสมาธิ
- หากต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสียงดังนาน ควรพักหูทุก ๆ 1 ชั่วโมง
เสียงดัง ไม่ได้แค่ทำให้ปวดหัว แต่ทำร้ายสมองได้จริง
การหลีกเลี่ยงเสียงดังเกินไปไม่ใช่เรื่องจุกจิก แต่คือการดูแลสมองระยะยาว เพราะเสียงคือ "มลพิษทางประสาท" ที่ส่งผลต่อการเรียนรู้ การนอน ความคิดสร้างสรรค์ และแม้กระทั่งความจำ หยุดทำร้ายสมองแบบไม่รู้ตัว ด้วยการจัดสภาพแวดล้อมให้เป็นมิตรกับประสาทหูและใจของเรา